แนวรับที่สำคัญ คือ 1670จุด
เพราะเขาเปิด GAP ขาขึ้นไว้
ถ้าหลุด 1670จุด
มาเป็น 1669จุด เมื่อใด
นั้นคือ ได้จบรอบขาขึ้น
คนที่อยู่ฝั่งขาขึ้น หรือ LONG/ CALL อยู่
ก็จะมาอยู่ที่หน้า SHORT หรือ PUT
ตอนนี้ทั้ง “ฝรั่ง” และ “กองทุน”
มันจะต้องล่อรายย่อย
ให้เปิดหน้า LONG หรือ CALL กันเยอะๆ
ทุกๆ คนรู้มัยครับ
การขึ้นลงของ SET ในแต่ละรอบ
มันคือ สงคราม
ระหว่าง “กองทุน” กับ “ฝรั่ง”
สงครามที่ว่า มันคืออะไร
มันก็คือ “ศึกชิงต้นทุนต่ำ”
สำหรับรอบขาขึ้นรอบนี้
กองทุน ได้เสียเปรียบ
ให้กับ ฝรั่ง ทุกรูปแบบ
เพราะกลุ่มธนาคาร และกลุ่มน้ำมัน
กองทุนไม่ได้ต้นทุนที่ถูก
กองทุนได้ลงทุนหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล
และกลุ่มเปิดบ้านเปิดเมือง
ซึ่งมันไม่ใช่ TREND ตลาด
รอบนี้บอกได้เลยครับ
กองทุนมันไม่ยอมแน่ๆ
มันจะต้องเอามาให้ได้
เพราะงบการเงิน Q1/65 ที่จะออกมา
กลุ่มธนาคาร/น้ำมัน งบจะออกมาดีมากๆ
FED ได้หงายไพ่
ออกมาให้เห็นในระดับหนึ่งไปแล้ว
เราลองไปไล่ TIME LINE กันหน่อยครับ
วันที่ 11 เม.ย 65 นี้
จะประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ เมกา
เมื่อเดือน มี.ค 65 (ที่ผ่านมา)
ได้ประกาศออกมาที่ 7.9%
ตัวเลข 7.9% คือ ตัวเลขเงินเฟ้อ ก.พ 65
สำหรับตัวเลข 7.9% คือ
ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในเมกา
ในรอบ 40ปี
และที่สำคัญ ตัวเลข 7.9% คือ
ยังไม่เกิดสงคราม ยูเครน-รัสเซีย
แสดงว่า ตัวเลขอาจจะสูงกว่า 10% แน่นอน
ถ้าเป็นเช่นนี้
FED ไม่มีทางเลือก ก็จะใส่ยาแรงเข้าไป
ทั้งขึ้นดอกเบี้ย 0.5% และ ลดงบดุล(QT)
มันก็คือ การดึงสภาพคล่อง
ออกจากตลาดหุ้นทั่วโลก
เงินเฟ้อมันถึงจะลดลงได้ครับ
สังเกตุรอบที่แล้วนะครับ
ตรงเส้นไข่ปลา
เส้นสีฟ้า คือ US10Y – US02Y
เส้นสีส้ม คือ SET
เรามองดูดีๆ นะครับ
ตัว US10Y – US02Y มันถึง 0 หรือ ติดลบ ก่อน
แล้วมันวิ่งขึ้นมา
หุ้นมันถึงจะเริ่มตก นะครับ
คำถามคืออะไร?
ทำไม US10Y – US02Y มันถึงวิ่งกลับขึ้นมา?
ก็เพราะ ดอกเบี้ย 10Y มันเริ่มสูงกว่า 2Y
นี้งัยครับ สิ่งที่ FED เขาทำ
ทำไม FED ถึงทำแบบนี้
ก็เพราะ FED ไม่อยากเจอ
“สภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ”
ถ้าเมื่อไร “เกิดสภาวะการถดถอย”
การแก้ไขปัญหา
ก็จะยากมากๆ สำหรับ FED
วันที่ 7 เม.ย 65
กองทุนได้ “ตัด” ลิฟท์ ขาขึ้นไปแล้ว
กองทุนจะต้องหาพวกให้ได้
พวกนั้น คือใคร
ก็คือ รายย่อย
ถ้ารายย่อย ออกจากฝรั่ง เมื่อไร
รายย่อย ก็จะขายออกมา
คราวนี้ล่ะครับ
ฝรั่ง เขาถึงจะยอมขาย
หุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มน้ำมันออกมา
SET INDEX มันถึงจะลงมาได้
ซึ่งก็จะเปันไปตามเป้าหมายของกองทุน
การรวมพลการติดเชื้อ ครั้งใหญ่ อีกครั้ง
นั้นคือ 12-13-14 เม.ย 65 นี้
คือ วันรวมพลติดเชื้อครั้งใหญ่
แล้ววันที่ 15-16-17 เม.ย 65 เป็นต้นไป
คือ เอาเชื้อโรคโควิค กลับมากรุงเทพ
ตัวเลขทะลุเมื่อไร
ก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง
ทำให้ตลาดหุ้นอ่อนไหวได้
แสดงว่า TIME LINE จากวันนี้เป็นต้นไป
จนกว่าจะถึง วันที่ 4 พ.ค 65 นี้
ก็คือ “ระเบิดเวลา”
วันที่ FED เขาประกาศที่จะใช้งานจริง
นั้นคือ “ขึ้นดอกเบี้ย” และ “ลดงบดุล(QT)”
คือ สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังวันที่ 4 พ.ค 65
(เมื่อ FED ประกาศใช้มาตราการต่างๆ)
แสดงว่า “ฝรั่ง” ก็จะต้องนับถอยหลัง
เพราะจะต้องเอาเงินไปคืน FED
ที่ “ฝรั่ง” มันมีเงินเยอะ
ก็เพราะมันยืมเงินมา ดอกเบี้ย 0%
คร่าวนี้ถ้าเอาเงินไปคืนช้า ก็จะเจอดอกเบี้ย
ของเดิม คือ 0.5% เมื่อเดือนที่แล้ว
ถ้า พ.ค 65 FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.5%
และเดือน มิ.ย 65 ขึ้น อีก 0.5%
โดยที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยทุกเดือน
หลังเดือน พ.ค 65 นี้
เป็นจำนวน 7ครั้ง
ขอบอก.!!! ได้เลยครับ
ตลาดหุ้นเหนื่อยแน่นอนครับ
กว่าจะเป็นขาขึ้นอีกรอบ
ก็จะต้องรอ FED ผ่อนคลาย
มาตราการต่างๆ ลงมาก่อน
FED ก็จะต้องสภาพคล่องกับมาอีกครั้ง
ตลาดหุ้นทั่วโลก ถึงจะเป็นขาขึ้นอีกครั้ง
หวังว่าบทความนี้
จะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ ท่าน นะครับ
…
GPYEONGTHAILAND