
Limit, ATO, ATC, MP, MP-MKT, MP-MTL แต่ละคำสั่งแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ต้องเกริ่นคร่าวๆ ก่อนว่า โปรแกรม Streaming เป็นโปรแกรมสำหรับทำการซื้อขายหุ้นที่ได้รับความนิยมให้กลุ่มนักลงทุน ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ค่อนข้างเยอะ แต่ก็อาจจะทำให้มือใหม่บางคนเกิดความมึนงงได้
วันนี้เราเลยหยิบ “ประเภทคำสั่งซื้อขายในโปรแกรม Streaming” มาอธิบายว่า แต่ละคำสั่งคืออะไร แล้วใช้งานอย่างไรบ้าง
#คำสั่งซื้อขายหุ้นแบบ Limit
– ปกติคำสั่งการซื้อขายจะตั้งค่าไว้ที่ Limit จึงเป็นคำสั่งที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน โดยเราสามารถระบุราคาที่ต้องการซื้อขายได้
– เมื่อเราใส่ราคาในช่อง Price และเลือกแบบ Limit ระบบก็จะไปตั้งคำสั่งรอซื้อขายที่ราคานั้นให้ แล้วรอจนคำสั่งของเรา Match ก็จะได้หุ้นนั้นเข้าพอร์ต
– ถ้าไม่ Match จนตลาดปิด ระบบก็จะยกเลิกคำสั่งนั้นให้อัตโนมัติ
#คำสั่งซื้อขายหุ้นแบบ ATO
– ส่งคำสั่งซื้อขายทันที ณ ราคาเปิดตลาด สามารถใช้งานได้เมื่อตลาดหุ้นเตรียมเปิด (Pre-Open) ในช่วงเช้าและช่วงบ่าย
– ถ้าเลือกซื้อขายด้วยคำสั่งนี้ เมื่อตลาดเปิดก็จะได้ราคาหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด หรือ ราคาเปิดนั่นเอง
#คำสั่งซื้อขายหุ้นแบบ ATC
– ส่งคำสั่งซื้อขายทันที ณ ราคาปิดตลาด สามารถใช้งานได้เมื่อตลาดหุ้นเตรียมปิด (Call Market) ในช่วงเย็น
– ถ้าเลือกซื้อขายด้วยคำสั่งนี้ ก็จะได้หุ้น หรือ ขายหุ้นออก ณ ราคาปิดของวันนั้น
#คำสั่งซื้อขายหุ้นแบบ MP
– ส่งคำสั่งซื้อขายจับคู่กับด้านตรงข้ามในราคาตลาด โดยจะตั้งราคาที่ฝั่งตรงข้ามแถวแรก เพื่อที่คำสั่งจะได้ Match ทันที
– ถ้าจับคู่ไม่หมด ระบบจะตั้งคำสั่งซื้อขายในราคาที่ดีกว่าราคาครั้งล่าสุด 1 Spread หรือเรียกง่ายๆ ว่า จะตั้งคำสั่งซื้อขายในช่องถัดไปให้เรื่อยๆ จนครบ
#คำสั่งซื้อขายหุ้นแบบ MP-MKT
– ส่งคำสั่งซื้อขายจับคู่กับด้านตรงข้ามในทุกระดับราคาตาม Best Price ที่อยู่ในคิว
– ถ้าจับคู่ไม่หมด ระบบจะยกเลิกจำนวนที่เหลือทิ้งอัตโนมัติ
#คำสั่งซื้อขายหุ้นแบบ MP-MTL
– ส่งคำสั่งซื้อขายจับคู่กับด้านตรงข้ามที่ราคาดีที่สุด (Top Best Price)
– ถ้าจับคู่ไม่หมด ระบบจะตั้งคําสั่งใหม่เพื่อรอจับคู่จำนวนที่เหลือในราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (Last Price) โดยอัตโนมัติ
ที่มา : www.settrade.com
:)ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก เพจ : Cashury